ไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบมอเตอร์สามตัว (Tri-motor) ซึ่งย่อมาจาก Super Sport Race โดยมีจุดเด่นคือสมรรถนะอันน่าทึ่ง ด้วยพละกำลังสูงถึง 1208 แรงม้า และแรงบิด 8851lb-ft
Aion Hyper SSR มีขนาดใกล้เคียงกับ Lotus Evija โดยมีความยาว 4538 มม. กว้าง 1988 มม. และสูง 1238 มม. ซึ่ง Lotus Evija มีพละกำลังอยู่ที่ 2011 แรงม้า
GAC ประกาศว่า Aion Hyper SSR สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 1.9 วินาที ซึ่งเทียบเท่ากับ Rimac Nevera ที่มีพละกำลังมหาศาล 1877 แรงม้า และแรงบิด 1741lb-ft แต่ความเร็วสูงสุดของ Aion Hyper SSR อยู่ที่เพียง 250 กม./ชั่วโมง (155 ไมล์/ชั่วโมง)
ตามมาตรฐานการทดสอบ CLTC ของจีน Hyper SSR สามารถวิ่งได้ไกล 506 กิโลเมตร (314 ไมล์) ด้วยแบตเตอรี่ 74.68kWh
GAC ยังไม่เปิดเผยน้ำหนักของรถ แต่ตัวถังและเบรกของรถผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ดังนั้นน้ำหนักน่าจะเบาพอสมควร นอกจากนี้ ล้อก็ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน และมีสปอยเลอร์หลังแบบ Active ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับระดับได้เพื่อเพิ่มแรงกดอากาศขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง อีกทั้งยังมีประตูแบบปีกนก (gullwing doors)
ภายในห้องโดยสาร มีพวงมาลัยทรงหกเหลี่ยม และ GAC ได้ลบก้านควบคุมออก คล้ายกับเทสลา (Tesla) ในรุ่น Model 3 ใหม่ มีปุ่มควบคุมน้อย แต่ตกแต่งด้วยโครเมียมเพื่อเพิ่มความหรูหรา เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ต ซึ่งทางผู้ผลิตอ้างว่าเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและการขับขี่สมรรถนะสูง นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (active cruise control) ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน (dual-zone climate control) และลำโพง 8 ตัว
หน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว สำหรับระบบ Infotainment อยู่ตรงกลางคอนโซล ส่วนมาตรวัดดิจิตอลขนาด 8.8 นิ้ว ที่ได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบเครื่องบิน อยู่บนคอนโซลหน้าผู้ขับขี่
GAC อ้างว่าไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยไม่มีการใช้วัสดุจากสัตว์เลย วัสดุบางอย่างใช้การพิมพ์ 3 มิติ ขณะที่บางส่วนผลิตจากเส้นใยรีไซเคิล และเบาะนั่งทำจากหนังวีแกนที่ย่อยสลายได้
การออกแบบของ Hyper SSR เกิดจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานใหญ่ของ GAC ที่กว่างโจวและสาขาที่ลอสแอนเจลิส
ขณะนี้ Hyper SSR ยังเป็นเพียงรถต้นแบบ แต่ GAC อ้างว่าจะเข้าสู่การผลิตในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสานต่อแนวคิดรถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นก่อนอย่าง Enpulse roadster ที่เปิดตัวในปี 2020 มีขนาดใกล้เคียงกับ Toyota GR Supra
GAC เคยประกาศเป้าหมายที่จะโค่นล้มผู้นำตลาดรถซูเปอร์คาร์ยุโรป (อย่าง Ferrari และ Lamborghini)